4 อาการ แบตรถยนต์หมด ต้องทำยังไง

แบตรถยนต์หมด

แบตเตอรี่รถยนต์ที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้ จำได้หรือไม่ว่าใช้งานมากี่ปีแล้ว เพราะหากจำไม่ได้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ แบตรถยนต์หมด โดยเฉพาะการสตาร์ทรถไม่ติด ที่จะทำให้เราเริ่มมั่นใจแล้วว่านั่นเป็นสัญญาณของแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมหรือแบตเตอรี่รถยนต์หมดแน่นอน ดังนั้นวันนี้บทความของเราจึงมีทริคดี ๆ ที่เป็นประโยชน์เมื่อรถของคุณแบตเตอรี่หมดมาฝากกันค่ะ

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด

  1. เปิดไฟรถทิ้งไว้

ในส่วนของการเปิดไฟรถทิ้งไว้นี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รถแบตหมดค่ะ โดยส่วนใหญ่จะพบผู้ใช้รถที่ลืมปรับไฟมาอยู่ในโหมดออโต้ แต่จะเปิดโหมดหรี่ไฟเอาไว้ เมื่อปิดรถแล้วก็ลืมจนได้ ดังนั้นวิธีแก้ที่ถูกต้องที่สุดคือการตรวจสอบไฟรถว่าอยู่ในโหมดออโต้แล้วหรือยังก่อนที่จะทำการผิดรถนั่นเอง เพื่อที่แบตของรถยนต์จะได้ไม่เสื่อมและหมดไปค่ะ

  1. ปิดประตูท้ายไม่สนิท

รถยนต์คันใดที่มีประตูท้ายรถเป็นแบบกลอนไฟฟ้า โดยเฉพาะตระกูล SUV ทั้งหลาย โดยเมื่อปิดลงไปแล้วไม่ลงล็อคก็เท่ากับว่าระบบไฟฟ้าของรถยนต์คันนั้นยังคงทำงานอยู่ ซึ่งก็แน่นอนว่าทำให้สูญเสียพลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ได้มากเลยทีเดียว ส่งผลให้แบตของรถหมดไวขึ้น

  1. จอดรถยนต์ทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ๆ

สาเหตุนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับบ้านที่มีรถยนต์หลายคัน หรือมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัดบ่อยครั้ง จนไม่ได้ใช้งานรถยนต์ที่จอดไว้ ซึ่งเมื่อจะกลับมาใช้ใหม่ก็มีปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะการที่รถยนต์สตาร์ทไม่ติด ซึ่งวิธีแก้ก็ไม่ยากค่ะ หากคุณคิดว่าจะไม่ได้ใช้รถยนต์คันนี้เป็นเวลานานก็เพียงถอดขั้วลบแบตเตอรี่ออกก่อน และเมื่อต้องการใช้อีกครั้งค่อยกลับมาใส่อีกครั้งนึง การทำเช่นนี้จะทำให้แบตเตอรี่หมดช้าลง

  1. การใช้งานแบตรถยนต์เกินอายุการใช้งาน

แบตเตอรี่รถยนต์นั้นมีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี หรือสำหรับแบตเตอรี่บางรุ่นนั้นสามารถมีอายุการใช้งานได้ถึง 2 ปีครึ่งกันเลยทีเดียว และเมื่อแบตเตอรี่ถูกใช้งานจนเกินอายุนี่แหละที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตรถยนต์หมดและเสื่อมตัว ส่งผลให้การสตาร์ทรถไม่ติด ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของรถยนต์จึงควรใช้แบตเตอรี่นั้น ๆ ให้เหมาะสมกับอายุการใช้งานเพื่อที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายที่มากขึ้น

รู้ได้อย่างไรว่าแบตรถยนต์หมด

  1. รถสตาร์ทติดยากขึ้น

สิ่งแรกที่สามารถสังเกตได้ว่าและเป็นสัญญาณที่บอกให้เรารู้ว่าแบตรถยนต์ของเราเริ่มเสื่อมหรือใกล้จะหมดแล้วนั่นก็คือการสตาร์ทรถที่ยากขึ้น โดยเมื่อสตาร์ทไปแล้วรถก็ไม่ติดสักทีอีกทั้งยังมีเสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นเมื่อสตาร์ทรถอยู่ตลอดเวลา ให้รู้ไว้เลยว่านี่แหละคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของเราควรได้รับารเปลี่ยนใหม่แล้ว

  1. ไฟหน้ามีความสว่างน้อยลง

โดยปกติแล้วผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนจะต้องเปิดไฟหน้ารถเมื่อถึงเวลาอันสมควร ซึ่งไฟหน้านั้นก็มีความสว่างตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงเป็นไฟสูง แต่หากวันหนึ่งวันใดที่ไฟหน้าของเรามีความสว่างที่น้อยลงหรืออยู่ในระดับที่ต่ำ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของรถเริ่มน้อยลงแล้วนั่นเอง

  1. กระจกไฟฟ้าเปิดและปิดได้ช้าลง

ขึ้นชื่อว่าเป็นกระจกไฟฟ้า การทำงานต่าง ๆ ของมันจึงจำเป็นอยางยิ่งที่จะต้องใช้ไฟฟ้าในการเลี้ยงให้กระจกทำงาน โดยวิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าแบตเตอรี่ของเราใกล้หมดแล้วนั่นก็คือเมื่อเปิดกระจกไฟฟ้าแล้วจะมีการเคลื่อนตัวที่ช้ากว่าเดิมนั่นเอง

  1. เครื่องเสียงติดรถยนต์มีความผิดปกติ

เชื่อว่าหลาย ๆ นคงจะต้องใช้เครื่องเสียงติดรถยนต์ในการเปิดฟังวิทยุหรือเปิดเพลงคลอแก้เบื่อในระหว่างขับขี่รถยนต์กันอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าเสียงเพลงเหล่านั้นที่เราฟังอยู่ทุกวันเริ่มมีความผิดปกไม่ว่าจะเป็นในเรื่องกำลังเสียงที่ส่งออกมา ความแหลมหรือเบสของเสียงที่ผิดปกติเปลี่ยนไป นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณใกล้จะหมดแล้วนะคะ

  1. ใช้งานเกินอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี ซึ่งเมื่อเราใช้งานเกิน 2 ปีแล้วแน่นอนเลยค่ะว่ารถของเราอาจจะต้องประสบพบเจอกับปัญหาทั้ง 4 ข้อที่ได้กล่าวมาข้างต้นอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์จึงควรหมั่นตรวจสอบและคอยเช็คแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เป็นประจำ

บทสรุป แบตรถยนต์หมด

แบตรถยนต์ เปรียบเสมือนท่อที่ทำการส่งไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ บนรถยนต์ที่จำเป็นจะต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน เมื่อแบตเตอรี่รถยนต์หมดหรือเสื่อมสภาพลงจึงส่งผลให้อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้านั้นมีการเสื่อสภาพตามลงไปด้วย ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์จึงควรคำนึงเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ ยี่ห้อไหนดี เพื่อป้องกันไม่ให้แบตรถยนต์หมดและเสื่อสภาพไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง

NC ปะยาง ฉุกเฉิน ยางแตก แบตหมด ให้คิดถึงเรา ได้กลับบ้านแน่นอน !

NC ปะยางนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ให้บริการ เปลี่ยนแบตนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล

  • ใช้เวลา 15 – 30 นาทีถึงจุดหมาย
  • มีทีมช่าง ทั่วกรุงเทพ และ ปริมณฑล
  • ให้บริการ ทุกพื้นที่ สะดวก รวดเร็ว
  • ทางร้านมียางมือหนึ่ง และ ยางเปอร์เซ็นต์(ยางมือสอง)