ยางรถยนต์ ทำมาจากอะไร ?

รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่มีส่วนประกอบที่หลากหลาย ทั้งภายนอกและภายใน และสิ่งหนึ่งที่จะทำให้รถของคุณสามารภเคลื่อนที่ได้นั่นก็คือ “ล้อรถยนต์” ที่จะมียางรถยนต์เป็นตัวรับหน้าที่ในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลังนั่นเอง แล้วทุกท่านเคยสงสัยกันหรือไม่ว่ายางรถยนต์ทำมาจากอะไร หากสงสัยในเรื่องนี้แล้วล่ะก็ บทความของเรามีคำตอบที่คุณสงสัยค่ะ

ยางรถยนต์คืออะไร ทำมาจากอะไร

ยางรถยนต์ คือ ชิ้นส่วนหนึ่งของรถที่มีหน้าที่ในการรับหน้าถนนด้วยการหมุนตามวงล้อหรือหมุนเป็นวงกลม ซึ่งยางรถยนต์นั้นจะมีสีดำและมีน้ำหนักมาก มีรูตรงกลางสำหรับนำใส่กับโครงล้อรถยนต์ ซึ่งภายในจะบรรจุก๊าซไนโตรเจนหรืออากาศที่จะมีความดันสูงเข้าไป ทำให้รถยนต์สามารถรับน้ำหนักและสัมผัสกับพื้นถนนได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

ยางรถยนต์ เป็นชิ้นส่วนที่ทำมาจากยางดิบหรือยางธรรมชาติ ที่ผ่านการผสมกับกำมะถันเข้ากับตะกั่ว จากนั้นผ่านความร้อนด้วยการลนไฟ ทำให้ยางรถยนต์มีความยืดหยุ่น สามารถยึดเกาะกับพื้นถนนได้เป็นอย่างดี

ส่วนประกอบของยางรถยนต์

1. ยางแท่ง หรือ ยางธรรมชาติ

ยางแท่ง ยางดิบ หรือยางธรรมชาติ ที่เรารู้จักกันนั้น เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยางรถยนต์ ซึ่งจะนำยางดิบเหล่านี้ไปเข้ากระบวนการต่าง ๆ เพื่อขึ้นรูปจนเกิดเป็นยางรถยนต์ตามที่เราได้เห็นกันนั่นเอง

2. เขม่าดำ

ยางรถยนต์ทุกยี่ห้อนั้นจะมีสิ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ “สีดำ” ซึ่งนั่นก็เป็นผลมาจากการใช้เขม่าดำนี้นั่นเอง และนอกจากเขม่าดำจะเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ยางรถยนต์ของเราเป็นสีดำแล้ว เขม่าดำก็ยังสามารถเสริมความแข็งแรงของยางรถยนต์ได้อีกด้วย

3. น้ำมันและสารเคมี

นอกจากจะมีการใช้ยางแท่งและเขม่าดำแล้วก็ยังมีการใช้น้ำมันรวมถึงสารเคมีต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ยางรถยนต์มีสภาพและความแข็งแรงมากขึ้น

กว่าจะเป็นยางรถยนต์ ต้องผ่านอะไรบ้าง

รู้หรือไม่ว่ายางรถยนต์ที่เราได้ใช้งานกันในปัจจุบันนั้น มีวิธีการผลิตที่ซับซ้อนมาก ๆ โดยการผลิตนั้นจะเริ่มจากการนำยางดิบและสารเคมีต่าง ๆ ที่ต้องใช้เข้าสู่เครื่องผสมยางด้วยความร้อน จากนั้นเครื่องผสมยางก็จะทำให้ส่วนผสมเหล่านั้นกลายมาเป็นแผ่นยางสีดำ ที่มีความเหนียวและมีความร้อนสูง จากนั้นแผ่นยางเหล่านี้ก็จะต้องผ่านน้ำแป้งที่ใช้สำหรับลดความร้อนของแผ่นยางและไม่ให้แผ่นยางติดกัน เมื่อผ่านขั้นตอนนี้แล้วยางก็จะถูกเป่าให้เย็นด้วยพัดลมเมื่อเย็นได้ที่แล้วก็จะไหลออกมาเป็นแผ่นยางพับ ๆ ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็จะนำไปตรวจสอบและดำเนินการทำให้เป็นยางรถยนต์ที่มีความเหนียว แข็งแรงและสามารถเกาะติดพื้นถนนได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

โดยวิธีการตรวจสอบนั้นจะนำแผ่นยางมาตัดแล้วนำเข้าสู่การทดสอบทั้งบีบ อัด และกด เพื่อตรวจสอบว่ายางที่ได้มานี้เป็นยางที่มีคุณภาพและสามารถนำไปทำยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพได้

ควรเลือกยางรถยนต์อย่างไรให้ใช้ได้นาน

1. เลือกขนาดของยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถ

ยางรถยนต์ทุกเส้นจะมีตัวเลขเขียนบอกขนาดยางรถยนต์ไว้ในบริเวณแก้มยางเสมอ ดังนั้นผู้ซื้อจึงควรศึกษาวิธีการเลือกขนาดของยางให้ดี อย่างเช่น 215/45R17 91W ตัวเลข 215 หมายถึงขนาดหน้ากว้างของยาง 45 หมายถึง ความสูงของแก้มยาง R17 หมายถึง เส้นรัศมีหรือเส้นผ่านศูนย์กลางของตัวยาง และ 91W หมายถึง ค่าดัชนีรับน้ำหนักของตัวยางนั่นเอง โดย 91W นี้อาจรับน้ำหนักได้ประมาณ 900 กว่ากิโลกรัม และนอกจากนี้ยังมีตัวอักษร W , V , และ H ซึ่งทั้งสามตัวอักษรนี้ก็ยังมีความหมายนะคะ ซึ่ง W หมายถึงรถคันนี้สามารถทนความเร็วสูงได้ถึง 270 กม./ชม. V ทนความเร็วได้ 240 กม./ชม. และ H ทนความเร็วได้ 210 กม./ชม.

2. เลือกยางที่มีแก้มยางต่ำ

แก้มยางนี้ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า ซีรีย์ ซึ่งยางเส้นใดที่มีซีรีย์ต่ำนั้นจะมีความแข็งแรงของยางที่มีซีรีย์สูงเนื่องจากยางที่มีซีรีย์ต่ำนั้นจะมีโครงสร้างของยางที่แข็งแรงมากขึ้น ดังนั้นราคาของยางแบบนี้ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

3. ดูวันผลิตและวันหมดอายุของตัวยาง

ยางรถยนต์นั้นก็มีวันผลิตและวันหมดอายุเช่นเดียวกับสินค้าตัวอื่น ๆ โดยจะมีสัญลักษณ์เป็นตัวเลข 4 ตัว เช่น 2922 ซึ่งยางนั้นจะไม่บอกวันผลิตเป็นวันที่จะบอกเป็นสัปดาห์และปี โดย 29 หมายถึง สัปดาห์ที่ 29 และ 22หมายถึงปีที่ผลิตนั่นก็คือ 2022 นั่นเอง ซึ่งยางนั้นหากดูที่ปีเราก็อาจจะไม่อยากได้ยางที่ผลิตในปีที่เก่าจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณภาพของยางนั้นยังดีอยู่ เช่นหากยางเส้นนั้นเขียนว่าผลิตในปี 2020 แล้วเราซื้อมาใช้ในปี 2022 ก็ยังใช้ได้อยู่เนื่องจากยางจะมีคุณภาพได้นานถึง 4 ปี เมื่อเริ่มใส่แล้วใช้งานนั่นเอง

บทสรุป ยางรถยนต์ทำมาจากอะไร

ยางรถยนต์ทำมาจากยางดิบหรือยางธรรมชาติที่ต้องผ่านวิธีการในการทำมากมาย ซึ่งมีสารเคมีที่ผสมอยู่ในยางหลายชนิดที่ทำให้ยางนั้นมีความยืดหยุ่น แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน อีกทั้งการเลือกยางที่ดีก็จะทำให้อายุการใช้งานมากขึ้นไปดด้วย สามารถดูวิธี การปะยาง เป็นความรู้ได้