แบตรถหมด เปิดประตูไม่ได้ ทำอย่างไร ?
แบตเตอรี่รถยนต์หมดว่าน่าปวดหัวแล้ว แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบตหมดพร้อมกับเปิดล๊อกประตูรถยนต์ไม่ได้คงจะยิ่งเป็นเรื่องน่าปวดหัวเข้าไปใหญ่ เพราะนอกจากเราจะเข้าไปสตาร์ทรถยนต์เจ้ากรรมไม่ได้แล้ว เราจะไม่สามารถเปิดกระโปรงหน้ารถเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
ปกติเหตุการณ์น่าปวดหัวซ้ำซ้อนแบบนี้เกิดจากการที่เราทำลูกกุญแจที่อยู่ภายในกุญแจรีโมทแบบ Smart Key หาย หรือกรณีที่ติดระบบเซ็นทรัลล็อคเพิ่มเติมแล้วเราไม่ได้ต่อกลไกกุญแจกับกลอนประตู รวมถึงเกิดปัญหาลูกกุญแจสึกกร่อนจากอายุการใช้งานซึ่งเราอาจไม่รู้ตัวเนื่องจากปลดล็อคประตูด้วยรีโมทเป็นประจำ ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่รถยนต์หมดจนไม่เหลือแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าเราจะทำให้เราไม่สามารถกดรีโมทเปิดประตูรถของเราได้
แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วเรามีวิธีแก้ดังนี้ครับ
1) แกะฝาครอบช่องดักลมออกแล้วชาร์จแบตหรือเปลี่ยนแบต
ทำได้โดยการแกะฝาครอบช่องดักลมแล้วดึงสายฝากระโปรง แล้วเลือกว่าจะจัมพ์แบต ยกแบตไปให้ร้านชาร์จไว้ หรือเปลี่ยนแบตใหม่เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า อายุการใช้งานแบตเตอรี่และความเสื่อมสภาพของแบตรถยนต์ของเรา
2) จ้างช่างกุญแจเปิดประตูรถยนต์
ติดต่อช่างทำกุญแจมาดำเนินการสะเดาะกุญแจรถให้ หรือรถบางรุ่นที่อยู่ในระยะเวลารับประกันก็อาจขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการเพื่อช่วยดำเนนการเปิดประตูรถยนต์ให้เรา และเมื่อสามารถเปิดประตูรถและเปิดฝากระโปรงรถได้ จากนั้นค่อยแก้ไขปัญหาเรื่องแบตเตอรี่
3) ทุบกระจก
เป็นทางเลือกในกรณีที่ต้องการเปิดรถอย่างเร่งด่วน เช่น มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงติดอยู่ภายในรถ โดยใช้ค้อนหรือของแข็งที่หาได้ทุบกระจกบานด้านข้างเพราะบางและมีความแข็งแรงน้อยกว่ากระจกด้านหน้ารถ และพยายามเลือกบานที่อยู่ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันการเกิดอันตราย และเช่นกันเมื่อสามารถเปิดประตูรถและเปิดฝากระโปรงรถได้ จากนั้นค่อยเลือกว่าจะจัมพ์แบต ยกแบตไปชาร์จที่ร้าน หรือเปลี่ยนแบตใหม่เลยถ้าพบว่าแบตรถของเราหมดสภาพ
เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบตเตอรี่รถยนต์หมดระหว่างทางและเราสามารถเปิดประตูรถเข้าไปได้แล้ว เบื้องต้นเราสามารถขอพ่วงแบตเตอรี่จากรถยนต์คันอื่นๆเพื่อชาร์จแบตให้รถเรา โดยขอให้รถอีกคันจอดหันหน้าเข้าหาของเราให้ใกล้ที่สุดแล้วดับเครื่อง ปิดระบบไฟฟ้าทุกอย่างของรถทั้ง 2 คัน ให้หมด ทำการหนีบสายพ่วงแบตขั้วบวกเข้ากับขั้วบวกของคันที่แบตรถหมด จากนั้นนำสายอีกฝั่งไปหนีบที่ขั้วบวกของรถคันที่มาช่วยพ่วงแบต หนีบสายพ่วงแบตขั้วลบเข้ากับขั้วลบของคันที่มาช่วย ส่วนอีกฟากนำไปหนีบที่ตัวถังของรถที่แบตหมด เมื่อต่อสายจัมพ์ครบแล้วให้สตาร์ทเครื่องรถคันที่มาช่วยเหลือทิ้งไว้ก่อนแล้วสตาร์ทรถคันที่แบตหมด หากสตาร์ทได้แล้วให้ถอดสายพ่วงและขับรถตามปกติ ก่อนจะนำรถไปเช็คสภาพแบตที่ศูนย์บริการหรือที่ร้านที่ไว้ใจได้
อย่างไรก็ตามนอกจากแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้บอกไป เราควรจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลให้แบตรถเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรด้วย เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินแบตหมดระหว่างทาง ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่เปิดไฟหน้าหรือไฟในห้องโดยสารทิ้งไว้โดยตรวจเซ็คให้มั่นใจทุกครั้งก่อนลงจากรถ ไม่จอดรถทิ้งไว้นานๆจนแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพ ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่หรือแบตเตอรี่ไม่สามารถรับการชาร์จได้เลย และไม่ควรจอดรถตากแดดตากลมไว้เป็นเวลานาน เพราะสภาพอากาศที่หนาวเกินไปหรือร้อนเกินไปอาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถยนต์สตาร์ตไม่ติดหรือดับระหว่างทางเช่นเดียวกัน แนวทางแก้ไขปัญหารถแบตหมดระหว่างทางที่ดีที่สุดจึงเป็นการหมั่นตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเป็นประจำ เพื่อจะได้ลดปัจจัยของการเกิดเรื่องไม่คาดฝันระหว่างการเดินทางของเรา
ทั้งนี้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด รถยนต์แบทหมดระหว่างทางหรือแบตหมดในชั่วโมงเร่งด่วน “NC. ปะยาง 24 ชม.” สามารถช่วยคุณได้ เนื่องจากเราเป็นศูนย์ให้บริการจัมพ์แบตเตอรี่และจำหน่ายแบตเตอรี่ทุกขนาดทุกรุ่น 24 ชั่วโมง ด้วยทีมช่างมากประสบการณ์ที่ทำงานมากว่า 10 ปี ทำงานทั่วกรุงเทพและปริมณฑล สามารถให้บริการแก้ปัญหาได้ทุกพื้นที่อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 15 – 30 นาที ให้บริการไม่มีวันหยุด มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่รถยนต์คิดถึง “NC. ปะยาง 24 ชม.”