แบตเตอรี่รถยนต์หมด ทำยังไง ได้บ้าง
ปัญหาแบตเตอรี่รถหมดกะทันหันหรือแบตรถหมดกลางทางนับว่าเป็นปัญหาน่าหนักใจที่เวลาใครเจอก็ต้องปวดหัว ยิ่งโดยเฉพาะหากเกิดขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีธุระสำคัญต้องไปทำ ในบทความนี้เราจึงมีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อประสบกับเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดจากแบตรถหมดมาฝากกันครับ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าการที่รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากปัญหาแบตรถหมด ? ก่อนแบตรถของเราจะหมดโดยทั่วไปจะมีสัญญาณเตือนสำคัญๆ เช่น รถสตาร์ทติดยากต้องสตาร์ทหลายรอบและสตาร์ทไม่ติดเมื่อจอดรถทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน สัญญาณไฟรูปแบตเตอรี่ขึ้นโชว์บนแผงหน้าปัดรถยนต์ การทำงานของระบบล็อครถและกระจกไฟฟ้าช้าลง ไฟหน้ารถไม่ค่อยสว่างเหมือนปกติ ฯลฯ เมื่อพบเห็นอาการเหล่านี้ ให้สันนิษฐานว่าแบตเตอรี่รถเริ่มมีปัญหา ดังนั้นเราจึงควรรีบตรวจเช็ครถโดยด่วน
หากเจอเหตุการณ์แบตรถหมดวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นคือการเข็นแล้วกระตุกรถ ขอพ่วงแบตเตอรี่กับรถยนต์คันอื่น หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่
1) การเข็นแล้วกระตุกรถยนต์
วิธีนี้แทบจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆเลย การจะกระตุกรถเริ่มจากการชักชวนคนที่อยู่ใกล้ๆ 2-3 คน มาช่วยกันเข็นให้หนึ่งคนนั่งตำแหน่งคนขับคอยควบคุมรถและคนที่เหลือคอยเข็นให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เมื่อรถเคลื่อนที่ได้ความเร็วระดับหนึ่งคนขับจะต้องบิดกุญแจ เหยียบครัชแล้วเข้าเกียร์ จากนั้นรอจังหวะแล้วปล่อยครัชอย่างเร็ว เมื่อจังหวะลงตัวรถจะสามารถสตาร์ทติดได้แต่ถ้าหากว่ายังไม่ติดอาจลองทำวิธีเดิมซ้ำดูอีกรอบ ถ้าแบตไม่หมดจนเกลี้ยงและคนขับกระตุกรถถูกจังหวะไม่นานรถก็จะสตาร์ทติด อย่างไรก็ตามการเข็นแล้วกระตุกรถยนต์มีข้อจำกัดคือต้องใช้แรงจากคนในการเข็นรถให้เคลื่อนที่ เพราะเราไม่สามารถทั้งเข็นทั้งกระตุกคนเดียวได้ วิธีการนี้ทำได้เฉพาะกับรถที่เป็นระบบเกียร์ธรรมดาเท่านั้น ต้องมีพื้นที่พอสมควรและต้องไม่มีรถสัญจรพลุกพ่าน สภาพพื้นถนนที่ใช้วิธีนี้ก็ต้องเป็นพื้นเรียบหรือพื้นลาดลงเพราะถ้าลาดขึ้นเราคงเข็นรถไม่ไหวและแบตเตอรี่รถยนต์ต้องไม่หมดจนเกลี้ยง
2) การพ่วงแบตเตอรี่ หรือการจัมพ์แบต
คือการพ่วงแบตกับรถคันอื่นซึ่งเราสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
– เตรียมสายพ่วงแบตเตอรี่ และขอความช่วยเหลือจากรถยนต์ใจดีที่ขับผ่านมา ให้รถอีกคันจอดหันหน้าเข้าหาของเราให้ใกล้ที่สุดแล้วดับเครื่อง ปิดระบบไฟฟ้าทุกอย่างของรถทั้ง 2 คัน ให้หมด แม้จะเป็นแค่หลอดไฟส่องสว่างในห้องโดยสารก็ต้องปิดให้หมด
– ทำการหนีบสายพ่วงแบตขั้วบวก (สีแดง) เข้ากับขั้วบวกของคันที่แบตรถหมด จากนั้นนำสายอีกฝั่งไปหนีบที่ขั้วบวกของรถคันที่มาช่วยพ่วงแบต หนีบสายพ่วงแบตขั้วลบ (สีดำ) เข้ากับขั้วลบของคันที่มาช่วย ส่วนอีกฟากนำไปหนีบที่ตัวถังของรถที่แบตหมด
– เมื่อต่อสายจัมพ์ครบแล้วให้สตาร์ทเครื่องรถคันที่มาช่วยเหลือทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วสตาร์ทรถคันที่แบตหมด หากสตาร์ทได้แล้วให้ถอดสายพ่วง และสตาร์ทรถทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรือขับรถตามปกติ ในระหว่างนี้อย่าเพิ่งเปิดแอร์ หรือเปิดวิทยุ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟมาก อย่างไรก็ตามหากทำตามขั้นตอนนี้แล้วยังสตาร์ทไม่ติดเป็นไปได้ว่าเซลล์แบตหมดสภาพจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแบตใหม่เท่านั้น
3) การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
ทำได้โดยการเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ในรุ่นที่ขนาดความจุไฟและให้กำลังไฟเท่ากับแบตตัวเก่า โดยขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่เริ่มจาก เปิดฝากระโปรงหน้าเตรียมประแจเพื่อถอดแบตเตอรี่เก่าที่เสื่อมสภาพ ถอดเหล็กรัดหรือสายรัดแบตเตอรี่โดยเริ่มจากการถอดจากขั้วลบก่อนติดตั้งแบตเตอรี่ลูกใหม่ใส่ลงไปในช่องวางแบตเตอรี่เดิม สวมขั้วบวกของแบตเตอรี่ก่อน ทำการขันน๊อตให้แน่น และทดสอบแบตเตอรี่ใหม่ด้วยการสตาร์ท
อย่างไรก็ตามวิธีการที่ง่ายที่สุดเมื่อรถแบตหมดคือการตามช่าง “NC. ปะยาง 24 ชม.” เราเป็นศูนย์ให้บริการจัมพ์แบตเตอรี่และจำหน่ายแบตเตอรี่ทุกขนาดทุกรุ่น 24 ชั่วโมง ด้วยทีมช่างมากประสบการณ์ที่ทำงานมากว่า 10 ปี ทำงานทั่วกรุงเทพและปริมณฑล สามารถให้บริการแก้ปัญหาได้ทุกพื้นที่อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 15 – 30 นาที ให้บริการไม่มีวันหยุด มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่รถยนต์คิดถึง “NC. ปะยาง 24 ชม.”